วิชาวิทยาศาสตร์
วิชาวิทยาศาสตร์: หลอดไฟ LED
วิธีการประหยัดไฟจากหลอดLED
- ใส่อลูมิเนียมที่โคม
ทำให้เกิดความสว่างมากขึ้น จึงสามารถ ลดวัตต์ของไฟลงได้ ทำให้ประหยัดไฟฟ้ายิ่งขึ้น
- เพิ่มขนาดของที่ครอบไฟหน้าและหลังรถยนต์
ทำให้แสงสว่างมากขึ้น ทำให้ลดอุบัติเหตุได้ด้วย
- ตั้งเวลาหลอดไฟให้เปิด-ปิดอัตโนมัติตามเวลาที่จำเป็นต้องใช้
เพื่อป้องกันการลืมปิดไฟ และไม่เสียเวลาในการทำสิ่งอื่น
หลอดLEDดีกว่าหลอดไส้อย่างไร
- ประหยัดค่าไฟได้ถึง 75% อายุการใช้งานนานกว่า 50,000 ชั่วโมง
- ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดภาวะเรือนกระจก
- หลอด LED ปล่อยความร้อนออกมาน้อยมาก ทำให้อาคารลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าในส่วนของเครื่องปรับอากาศ
ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น
- หลอด LED สามารถเปิด-ปิด ได้บ่อยครั้ง โดยไม่มีปัญหาขาดหรือเสียง่าย เหมือนหลอดฟลูออเรสเซนต์ธรรมดา โดยหลอดLED ให้ความสว่างได้ทันทีเมื่อเปิดสวิทซ์
- หลอด LED มีอายุการใช้งานยาวนาน มากกว่า 50,000 ชั่วโมง
หากเปิดใช้งานวันละ 10-12ชม.สามารถใช้งานได้นานถึง 11ปี
- ให้แสงสว่างโดยปราศจากรังสี
UV ซึ่งไม่มีผลทำให้สีของวัตถุ ภาพวาด ภาพเขียน ภาพถ่ายเสื่อมลง หรือทำให้พื้นผิวเสียหายได้
- ไม่ต้องใช้ บัลลาสต์
และ สตัทเตอร์
- หลอด LED มีความทนทานต่อการสั่นสะเทือนมากกว่า ไม่เปราะบางเหมือนหลอดขดลวด หรือ
- หลอดฟลูออเรสเซนต์
วัสดุทำจากอลูมิเนียม และพีซีอะคลิลิค จึงไม่แตกง่าย
- หลอด LED สามารถให้พลังงานแสงสว่างได้สูงถึง 70 ลูเมน/วัตต์
เมื่อเทียบกับหลอดไฟชนิดอื่น แสงของหลอด LED มีคุณภาพเหนือกว่ามาก
- หากชำรุด
สามารถนำมาซ่อมแซมได้
- ช่วยลดภาวะโลกร้อน
ไม่เพิ่มอุณหภูมิของโลกให้สูงขึ้น และช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกให้ลดลง
- ผลิตภัณฑ์ หลอดไฟ LED
ให้แสงบริสุทธิ์ใส และไม่กระพริบ ดังนั้น แสงที่สบายตา และปลอดภัยกับสุขภาพไม่ใช่เพียงแค่การให้มองเห็นเท่านั้น แต่ยังสามารถลดอาการปวดหัวและลดความเหนื่อยล้าจากการมองเห็นแสงที่กระพริบด้วย
- ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหลอดไฟ
 |
หลอดไฟ LED |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น